วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โครงงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

โครงงานอนุรักสิ่งแวดล้อม
1. ชื่อเรื่องโครงงาน การอนุรักสิ่งแวดล้อมบริเวณชายหาดซันไรด์

2. ชื่อผู้ทำโครงงาน นักเรียนครอบครัว 2752

3. ชื่อครูที่ปรึกษา นาย สัมพันธ์ ดำเพ็ง

4. ที่มา และความสำคัญของโครงงาน
เนื่องจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 502 ได้เรียนวิชางานโครงงาน ซึ่งอาจารย์ประจำวิชาได้แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเปฌน 2 กลุ่ม คือ นักเรียนครอบครัว 2652 และ 2752 ทั้งนี้กลุ่มของข้าพเจ้าคือ ครอบครัว 2752 ได้เล็งเห็นแล้วว่า การที่เราจะอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมนั้นไม่จำเป้นต้องไปพัฒนาสถานที่ไกลๆ ดังนั้นจึงเลือกที่จะพัฒนาชายหาดซันไรด์ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจของคนบริเวณใกล้เคียงและบุคคลทั่วไป ซึ่งถ้าเราสามารถพัฒนาโดยการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้ดูสวยงามก็จะทำให้ชาดหาดซันไรด์กลับมาเป็นสถานที่ยอดนิยมของบุคคบทั่วไปเหมือนในอดีตก็เป็นได้

5.วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า
1. เพื่อปรับภูมิทัศน์ชาดหาดให้ดูสะอาด
2. เพื่อสร้างความสามัคีในหมู่คณะ

6.สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า
หาดซันไรดืน่าจะมีความสวยงามขึ้น และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมดังเดิม

7. วิธีดำเนินการ
7.1 วัสดุ อุปกรณ์
อุปกรณ์
1. ไม้กวาด
2. ถังขยะ
3. ไม้เสียบลูกชิ้น
4. ถุงมือ

7.2. วิธีดำเนินการทดลอง
1. ศึกษาข้อมูลของสถานที่ที่จะไปพัฒนาและอนุรักษ์
2. วางแผนการปฏิบัติงาน และมอบหมายงานให้กับสมาชิกในกลุ่ม
3. ประเด็นการศึกษา
- พัฒนาบริเวณชายหาดให้ดูดีขึ้น

8.ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553

9. ประโยชน์หรือผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ช่วยลดขยะบนชายหาดซันไรด์
2. ภูมิทัศน์บนชายหาดซันไรด์สวยงานและดูดีขึ้น
3. ฝึกฝนความอดทน ความเสียสละ และความสามัคคีในหมู่คณะ

วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Mother's Day

วัน พุธ ที่ 11/ สิงหาคม/2553
หลังจากเสร็จกิจกรรมวันแม่ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น พวกเราเดินไปหน้าห้องวิชาการเพื่อ...กินก๋วยเตี๋ยวผัดที่แม่พี่น้ำผัดมาให้
ฉันเลยบอกทุกคนว่าเดี๋ยวมา เดี๋ยวไปซื้อน้ำแป๊ปซี่กับน้ำแข็งให้ เมื่อมาถึงทุกคนก็ล้อมลงกันกินอย่างสนุกสนาน
เมื่อกินกันเสร็จ อ.ละวิม ก็มาเรียกให้พวกเราซึ่งเป็นแกนนำเพิ่มพื้นที่ดี ลดพื้นที่เสี่ยง ไปปลูกป่าชายเลนที่หาดสระบัว
ไปถึงชายเลยไม่มีน้ำเลย พื้นดินแห้งเดินสบายมากเลย อ. ให้นักเรียนปลูกคนละ 4ต้น แต่ฉันปลูกต้นโกงกางตั้ง 9 ต้น
ที่สำคัญไม่เลอะโคลนดินเลย วันนี้รู้สึกดีมากเลย ได้รู้เรื่องต่างๆ มากมาย ถือว่าคุ้มค่ากับเวลาทีเสียไป

วันแม่ 12/สิงหาคม/2553 นี้
คงไม่มีอะไรเป็นพิเศษสำหรับบ้านของฉัน
แต่ปีนี้ โชคดีที่รัฐบาลให้หยุดยาว ฉันเลยคิดกับที่Individual counseling (ป๋า) ว่า
จะ Surprise ด้วยการพายาย แม่ฉัน (เสียดายพ่อไม่ว่าง) พ่อและแม่ของป๋า ไปเที่ยววน้ำตกวังยาว น้ำพรหมโลกกัน

(ไม่ต้องจ่ายค่าเข้าชม เพราะอุทยานทั่วประเทศให้เข้าชมฟรีเนื่องจากวันแม่ 12 สิงหาคม)
และก่อนกลับจะแวะงานชาวสวน ( งานนี้แม่อยากไปแต่สภาพร่างกายไม่อำนวย...แต่โชคดีมีคนพาไป)
ตอนเช้า 8 โมง เราก็ไปซื้ออุปกรณ์ปิคนิกกัน เริ่มแรกก็เตรียมอาหาร ขนม สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยนีไง ส้มตำ ต้มแซ่บ
ข้าวเหนียว หมูย่าง ขนมขบเคี้ยว เกี๋ยวเตี๋ยวผัด ( เหอะๆป้าผัดกันได้มะเนี่ย ) อ๋อที่ขาดไม้ได้เลย ต้องน้ำอัดลมกับ
น้ำแข็ง แล้วอะไรอีกนะ ช่างเหอะอยากกินอะไรค่อยซื้อหละกัน (เฮี่ยตังค์เยอะ...ซะงั้น)

9 โมงเตรียมอาหารขึ้นรถ ว้าวววว let go to Wang Yao Waterfall.กันเลย
ถึงน้ำตกก็ช่วยกันขนของลง ปูเสื่อ นั่งเอาของลงมาวางที่เหลือผู้ใหญ่ขาจัดการเองนะ น้ำแข็งอยู่ในกระติก
อาหารอยู่ในกล่องเก็บนะ อยากกินอย่างอื่นบอกหละกันเดี๋ยวไปซื้อให้ แต่ตอนนี้นู๋กับป๋าไปเล่นน้ำก่อนน๊า






ผู้ใหญ่เค้าคุยกันจังเลย มันซะ



เหนื่อยแล้วงะป๋าหาไรกินกันเนอะ

วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553

โครงงานอนุรักสิ่งแวดล้อม

1. ชื่อเรื่องโครงงาน การอนุรักสิ่งแวดล้อมบริเวณชายหาดซันไรด์

2. ชื่อผู้ทำโครงงาน นักเรียนครอบครัว 2752

3. ชื่อครูที่ปรึกษา นาย สัมพันธ์ ดำเพ็ง

4. ที่มา และความสำคัญของโครงงาน
เนื่องจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 502 ได้เรียนวิชางานโครงงาน ซึ่งอาจารย์ประจำวิชาได้แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเปฌน 2 กลุ่ม คือ นักเรียนครอบครัว 2652 และ 2752 ทั้งนี้กลุ่มของข้าพเจ้าคือ ครอบครัว 2752 ได้เล็งเห็นแล้วว่า การที่เราจะอนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมนั้นไม่จำเป้นต้องไปพัฒนาสถานที่ไกลๆ ดังนั้นจึงเลือกที่จะพัฒนาชายหาดซันไรด์ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจของคนบริเวณใกล้เคียงและบุคคลทั่วไป ซึ่งถ้าเราสามารถพัฒนาโดยการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้ดูสวยงามก็จะทำให้ชาดหาดซันไรด์กลับมาเป็นสถานที่ยอดนิยมของบุคคบทั่วไปเหมือนในอดีตก็เป็นได้


5.วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า
1. เพื่อปรับภูมิทัศน์ชาดหาดให้ดูสะอาด
2. เพื่อสร้างความสามัคีในหมู่คณะ

6.สมมติฐานของการศึกษาค้นคว้า
หาดซันไรดืน่าจะมีความสวยงามขึ้น และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมดังเดิม

7. วิธีดำเนินการ
7.1 วัสดุ อุปกรณ์
อุปกรณ์
1. ไม้กวาด
2. ถังขยะ
3. ไม้เสียบลูกชิ้น
4. ถุงมือ

7.2. วิธีดำเนินการทดลอง
1. ศึกษาข้อมูลของสถานที่ที่จะไปพัฒนาและอนุรักษ์

2. วางแผนการปฏิบัติงาน และมอบหมายงานให้กับสมาชิกในกลุ่ม
3. ประเด็นการศึกษา
- พัฒนาบริเวณชายหาดให้ดูดีขึ้น


8.ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553

9. ประโยชน์หรือผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. ช่วยลดขยะบนชายหาดซันไรด์

2. ภูมิทัศน์บนชายหาดซันไรด์สวยงานและดูดีขึ้น
3. ฝึกฝนความอดทน ความเสียสละ และความสามัคคีในหมู่คณะ

วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2553


ในท้องถิ่นตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา คงจะไม่พูดถึงทะเลที่อยู่คู่กับท้องถิ่นของเรามาช้านานไม่ได้ เพราะ ทะเลคือแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวท่าศาลามาช้านาน ซึ่งในปัจจุบันนี้เป็นที่น่าสลดใจอย่างมาก ที่ได้มีบุคคลต่างถิ่นเข้ามาทำลายน่านน้ำ แหล่งที่อยู่อาศัย และทำลายอาชีพของคนในท้องถิ่นพร้อมๆกันไปด้วย สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นก็ คือ เรือประมงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ที่ได้เข้าลักลอบเข้ามาจับปลา ครูดหอยลายในพื้นที่อนุรักษ์ โดยการใช้ตะแกรงขนาดใหญ่ไถคราดลงไปในท้องทรายใต้ทะเล กินเนื้อทรายลงไปเกือบ 1 ฟุต เพื่อตักเอาหอยลาย ยิ่งคราดได้ลึกเท่าไหร่ จะยิ่งได้หอยลายตัวโตขึ้น แต่นอกจากได้หอยลายแล้วแนวปะการังจะเสียหายไปด้วย น้ำขุ่น น้ำเน่า สัตว์เล็กสัตว์น้อย ที่ชาวประมงพื้นบ้านเคยหาได้หายไปหมด นอกจากนี้ยังมีเรืออวนลากคู่ ที่จะกวาดเอาปลาเล็กปลาน้อยที่ยังโตไม่เต็มที่ขึ้นไปด้วย ทั้งนี้เราสามารถป้องกัน อนุรักษ์และพื้นฟูท้องทะเลบ้านเราได้ดังนี้ 1. เฝ้าระวังกันเองจากชาวประมงที่ออกหากิน ใครพบเรือใหญ่ที่มีท่าทีไม่ชอบมาพากลก็ให้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบ 2. ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้ามาช่วยเฝ้าระวังด้วย เมื่อจับเรือประมงพาณิชน์ที่เข้ามาหากินในพื้นที่ 1,500 เมตรจากชายฝั่งต้องถูกปรับ 1,000 บาท สำหรับบทบัญญัติท้องถิ่น และถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประมง พ.ศ.2490 อีกด้วย นอกจากนี้ จ.นครศรีธรรมราชยังมีประกาศจังหวัดที่ว่า เรือประมงพาณิชน์ที่เข้ามาหากินในพื้นที่ 4,500 เมตรจากชายฝั่งทะเลก็มีความผิดตามพ.ร.บ.ประมงด้วย และในบทบัญญัติท้องถิ่นก็จะต้องถูกโทษปรับอีก 1,000 บาทด้วย


แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การแก้ไขปัญหาระดับชุมชนในเรื่องที่คนส่วนใหญ่ในชุมชนประสบร่วมกันคือ ความสามัคคี และการพูดคุยร่วมกัน และร่วมกันฟื้นฟูทรัพยาการที่ได้รับความเสียหายได้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม


วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Introducing Myself (แนะนำตนเอง)

ฉันชื่อ มนัสนิตย์ จิตมั่น คุณสามารถเรียกฉันสั้นว่า ไหม

เกิดเมื่อ วันพฤหัสบดี ที่ 28 เดือน มกราคม ปี พ.ศ.2536

ณ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีรรมราช

อยู่บ้านเลขที่ 48/13 หมู่ 11 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช

งานอดิเรก เล่นกับน้องหมา เล่นคอมพิวเตอร์ เล่นเกมส์ เล่นดนตรี (ฟรุ๊ท ซออู้ อิเล็กโทน) ทำอาหาร

อาหารที่ชอบ ลาบ (หมู น้ำตก ) ตับหวาน ต้มแซ่บ ข้าวเหนียว ส้มตำทุกชนิด สรุปคืออาหารอีสารทุกชนิด
ราดหน้า ก๊วยเตี๋ยว

อนาคตอยากเป็นไรก็ได้ที่อยากเป็นนะตอนนั้น

คติประจำใจ ชะตาฟ้าลิขิต แต่ชีวิตเป็นของเรา คิดว่าถูกก็ทำไปแคร์ทำไมแค่ปากคน (แคร์คนที่เลี้ยงเราท่านั้น)

สิ่งที่รักที่สุด คือ ครอบครัวของฉัน ณ ปัจจุบัน เพราะ เขาไว้ใจในตัวฉัน ฉันชอบคำพูดของพ่อที่ว่า ทำไรก็ทำไปขอแค่คิดถึงพ่อ ถ้าคิดว่าถูกก็ทำไปใครจะว่าไรก็ช่างเขา เพราะปากคนมันก็ยาวไปเรื่อย พูดทั้งๆที่ไม่รู้จริง (การที่ทำให้ครอบครัวของเราไว้ใจไม่ยากหรอกขอแค่อย่าโกหกเขา ถึงแม้เราจะโกหกแค่ครั้งเดียวก็จะทำให้เขาไม่ไว้ใจเราตลอดไป)

นิสัยส่วนตัว แล้วแต่อารมณ์ แต่จับประเด็นได้ว่า ไม่ชอบนินทาคน ไม่ชอบสุงสิงกับใครยกเว้นคนที่คิดว่าไว้ใจได้ จะดีกับคนที่เขาดีกับเราเท่านั้น เวลาโกรธใครมากๆก็เปลี่ยนคนโกรธเป็นลมที่พาดผ่านตัวเราไม่รู้สึกเท่านั้นเอง แต่ถ้ามากเกินไปก็อาจจะ...(ไม่รู้แล้วแต่อารมณ์)

ที่ปรึกษาประจำตัวนอกจากพ่อแม่ ตั้งแต่อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต คือ นาย วสันต์ แซ่ฮั่น ปัจจุบันศึกษาที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สาขา วิศวะกรรมเครื่องกล เป็นที่ปรึกษาที่ดีคนหนึ่งนอกจากพ่อแม่ เขาให้คำปรึกษาได้ทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรมา ที่สำคัญเขายังชอบสอนด้านวิชาการโดยเฉพาะวิชาคณิต กับฟิสิกส์ เกือบทุกวันถ้าเขาว่างจากการทำงานหรือการเรียนโดยผ่านทางโปรแกรมแชตต่างๆไม่ว่าจะเป็น MSN camfrog

ความหวังสูงสุด คือ 1. อยากเรียนจบเร็วๆ จะได้เก็บเงินไปซื้อสวน (ฉันอยากกลับมาทำสวนเมื่อใช้ความรู้ที่เรียนมาอย่างคุ้มค่าแล้ว)
2.รอคอยช่วงปิดเทอมเพื่อ คนที่รอคอยจะได้กลับมาพาเราไปไหนมาไหนแทนแม่ที่ประสบอุบัติเหตุ ไม่ต้องไปไหนมาไหนกับคนที่ใครบางคนคิดว่าเป็นบางอย่างกับเรา