วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2553


ในท้องถิ่นตำบลท่าศาลา อำเภอท่าศาลา คงจะไม่พูดถึงทะเลที่อยู่คู่กับท้องถิ่นของเรามาช้านานไม่ได้ เพราะ ทะเลคือแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวท่าศาลามาช้านาน ซึ่งในปัจจุบันนี้เป็นที่น่าสลดใจอย่างมาก ที่ได้มีบุคคลต่างถิ่นเข้ามาทำลายน่านน้ำ แหล่งที่อยู่อาศัย และทำลายอาชีพของคนในท้องถิ่นพร้อมๆกันไปด้วย สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นก็ คือ เรือประมงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ที่ได้เข้าลักลอบเข้ามาจับปลา ครูดหอยลายในพื้นที่อนุรักษ์ โดยการใช้ตะแกรงขนาดใหญ่ไถคราดลงไปในท้องทรายใต้ทะเล กินเนื้อทรายลงไปเกือบ 1 ฟุต เพื่อตักเอาหอยลาย ยิ่งคราดได้ลึกเท่าไหร่ จะยิ่งได้หอยลายตัวโตขึ้น แต่นอกจากได้หอยลายแล้วแนวปะการังจะเสียหายไปด้วย น้ำขุ่น น้ำเน่า สัตว์เล็กสัตว์น้อย ที่ชาวประมงพื้นบ้านเคยหาได้หายไปหมด นอกจากนี้ยังมีเรืออวนลากคู่ ที่จะกวาดเอาปลาเล็กปลาน้อยที่ยังโตไม่เต็มที่ขึ้นไปด้วย ทั้งนี้เราสามารถป้องกัน อนุรักษ์และพื้นฟูท้องทะเลบ้านเราได้ดังนี้ 1. เฝ้าระวังกันเองจากชาวประมงที่ออกหากิน ใครพบเรือใหญ่ที่มีท่าทีไม่ชอบมาพากลก็ให้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบ 2. ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้ามาช่วยเฝ้าระวังด้วย เมื่อจับเรือประมงพาณิชน์ที่เข้ามาหากินในพื้นที่ 1,500 เมตรจากชายฝั่งต้องถูกปรับ 1,000 บาท สำหรับบทบัญญัติท้องถิ่น และถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประมง พ.ศ.2490 อีกด้วย นอกจากนี้ จ.นครศรีธรรมราชยังมีประกาศจังหวัดที่ว่า เรือประมงพาณิชน์ที่เข้ามาหากินในพื้นที่ 4,500 เมตรจากชายฝั่งทะเลก็มีความผิดตามพ.ร.บ.ประมงด้วย และในบทบัญญัติท้องถิ่นก็จะต้องถูกโทษปรับอีก 1,000 บาทด้วย


แต่ที่สำคัญที่สุดคือ การแก้ไขปัญหาระดับชุมชนในเรื่องที่คนส่วนใหญ่ในชุมชนประสบร่วมกันคือ ความสามัคคี และการพูดคุยร่วมกัน และร่วมกันฟื้นฟูทรัพยาการที่ได้รับความเสียหายได้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น